เกาะหมาก...อยากให้มา
ท่องเที่ยวสไตล์รักษ์โลก
ใครๆ ก็ชอบเที่ยว เพราะการเที่ยวในแต่ละครั้งทำให้ได้รับประสบการณ์แปลกใหม่ ได้เปิดหู เปิดตา เปิดใจ ได้ผ่อนคลายความตึงเครียดจากชีวิตประจำวัน การท่องเที่ยวให้สิ่งดีๆแก่ชีวิตเรามากมาย แต่ก็ก่อให้เกิดปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมมากจนเกินบรรยายเช่นกัน อย่างขยะที่ถูกทิ้งตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ หรือก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ นักวิจัยประจำมหาวิทยาลัยซิดนีย์ได้ประมาณการไว้ว่า กิจกรรมการท่องเที่ยวก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกมากถึง 4,500 ล้านตันต่อปี คิดเป็น 8% ของก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดที่ปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศโลก ทั้งยังมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอีกด้วย
คนชอบเที่ยวคงจะกุมขมับพลางบ่นว่า “อ้าว! แล้วจะให้ทำอย่างไรละ จะให้เลิกเที่ยวอย่างนั้นหรือ คงทำไม่ได้หรอกนะ” ที่กล่าวมาไม่ได้ต้องการจะให้คุณหยุดเที่ยว เพียงอยากจะบอกว่าการท่องเที่ยวแบบที่ไม่ทำร้ายโลกก็พอมีอยู่ อย่างเช่นการเที่ยวแบบโลว์คาร์บอนที่เรากำลังจะเล่าให้คุณฟัง ณ บัดนี้
เที่ยวแบบโลว์คาร์บอน สุขใจสไตล์รักษ์โลก
การท่องเที่ยวแบบโลว์คาร์บอน คือการท่องเที่ยวที่เน้นการพักผ่อน ตลอดจนการทำกิจกรรมต่างๆ ที่จะไม่เพิ่มการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ เช่น ปั่นจักรยานชมธรรมชาติ ปิดแอร์ ปิดไฟ เมื่อไม่อยู่ห้องพัก หันมาสั่งอาหารที่หาได้เองจากในท้องถิ่น ทำให้ลดพลังงาน ลดการขนส่งวัตถุดิบจากระยะไกล ลดคาร์บอนในที่สุด
ประเทศไทยมีโครงการเที่ยวแบบโลว์คาร์บอนต่ำอยู่หลายพื้นที่ เด่นๆ ก็คือเกาะหมาก ซึ่งได้รับเลือกจาก อพท. หรือ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) ให้เป็นพื้นที่ต้นแบบของการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมภายใต้โครงการ Low Carbon Destination เพื่อมุ่งเป้าสู่การเป็น Green Island ในระดับสากล ด้วยเหตุที่มีขนาดเหมาะสม มีธรรมชาติสมบูรณ์ ที่สำคัญชาวบ้านและผู้ประกอบการพร้อมที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ โดยมี “ธรรมนูญเกาะหมาก” เป็นข้อตกลงร่วมกันทั้งหมด 8 ข้อ ได้แก่
- ไม่สนับสนุนให้เรือเฟอร์รีนำยานพาหนะของนักท่องเที่ยวข้ามมายังเกาะหมาก
- รถจักรยานยนต์ให้เช่าต้องไม่เกินร้อยละ 70 ของจำนวนห้องพักบนเกาะหมาก
- ไม่สนับสนุนการใช้วัสดุจากโฟม หรือวัสดุที่ก่อให้เกิดมลพิษ เพื่อใส่อาหาร
- ห้ามทิ้งขยะ สิ่งปฏิกูล ของเหลือรับประทานลงในที่สาธารณะ และแหล่งน้ำโดยเด็ดขาด
- ไม่สนับสนุนให้ใช้สารเคมีที่มีสารตกค้างสูง
- ห้ามส่งเสียงดังหรือกระทำการรบกวน หรือเป็นการเดือดร้อน ในเวลา 22.00 น. - 07.00 น.
- ไม่สนับสนุนกีฬาทางบกและทางทะเลที่ใช้เครื่องยนต์ที่สร้างความเดือดร้อนแก่ชุมชน
- ห้ามนำ ห้ามเสพ ห้ามจำหน่ายสารเสพติดผิดกฎหมายทุกชนิดบนเกาะ
เอาละ หลังจากที่รู้จักการท่องเที่ยวแบบโลว์คาร์บอนกันแล้ว เรามาเก็บเสื้อผ้าคว้ากระเป๋าไปเที่ยวแบบโลว์คาร์บอนที่เกาะหมากกัน
รื่นรมย์ ชมเกาะหมาก
เกาะหมาก เป็นเกาะแสนสวยที่อยู่ในจังหวัดตราด ตั้งอยู่ระหว่างเกาะช้างกับเกาะกูด มีพื้นที่ราว 9,000 ไร่ ซึ่งถือว่าเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่อันดับ 4 ของเมืองไทย พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบชายฝั่งทะเล จึงมีอ่าวและหาดทรายสวยงามหลายแห่ง อาทิ อ่าวขาว, อ่าวสวนใหญ่, อ่าวนิด, อ่าวไผ่, อ่าวพระ, อ่าวตาล, อ่าวลม, อ่าวโปร่ง เป็นต้น
การเดินทางไปยังเกาะหมาก สามารถทำได้หลายวิธี ทั้งรถส่วนตัว รถตู้ รถโดยสารประจำทางและเครื่องบิน เมื่อถึงจังหวัดตราดแล้ว ค่อยต่อเรือไปยังเกาะหมาก จะไปที่ท่าเรือแหลมศอก หรือท่าเรือแหลมงอบก็ได้ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที
เมื่อมาถึงเกาะหมากเราจะได้สัมผัสกับความงดงามของท้องทะเล ท้องฟ้า ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ที่แตกต่างจากในเมือง เพียงเท่านี้ความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางก็หายวับไปเลยทีเดียว
เราไปดูกันว่าเมื่อมาถึงเกาะหมากแล้วมีกิจกรรมอะไรให้เราได้ทำบ้าง
กิจกรรมโลว์คาร์บอนที่เกาะหมาก
พักผ่อนชิลล์ๆ รอบหาด
เกาะหมากเป็นเกาะที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน เราสามารถว่ายน้ำ อาบแดด เดินเล่นรอบเกาะ ศึกษาธรรมชาติ พันธ์ไม้ต่างๆ นกนานาชนิด และแมลง หรือจะเพลิดเพลินกับการอ่านหนังสือเล่มโปรดในบรรยากาศเงียบสงบก็แสนสุขใจ
ปั่นจักรยานและพายเรือคายัก
การปั่นจักรยานเที่ยวเกาะ และการพายเรือคายักชมทะเล เป็นกิจกรรมปลอดมลพิษช่วยลดคาร์บอนแล้วยังส่งผลดีต่อสุขภาพเพราะได้ออกกำลังกายไปในตัว
ดำน้ำ ชมปะการัง
เมื่อมาเกาะหมากสิ่งที่ไม่ควรพลาดเลยคือการดำน้ำชมความสวยงามของปะการังและปลาหลากสี ใครมีกล้องใต้น้ำห้ามลืมเอาไปเชียว
กิจกรรมเกษตรอินทรีย์
ที่ เกาะหมาก รีสอร์ท มีสวนเกษตรอินทรีย์สำหรับปลูกผักกินเอง และมีกิจกรรมมากมายให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมทำ เช่น
- นั่งรถราง (แบบมีล้อ) เที่ยวรอบเกาะ
- ตำส้มตำกินเอง โดยทางรีสอร์ทจะเตรียมอุปกรณ์และวัตถุดิบให้ วัตถุดิบส่วนใหญ่รีสอร์ทปลูกเองหรือผลิตเอง
- ชมสวนชมไร่ตามฤดูกาล เช่น ไร่ข้าวโพด นาข้าว สับปะรด มะเขือพวง มะละกอ ฯลฯ
- ปลูกข้าวโพด เก็บข้าวโพด และกินข้าวโพดดิบๆ จากต้น ที่อร่อยกว่าข้าวโพดต้มเสียอีก
- ชิมผลไม้ตามฤดูกาลทุกอย่างที่มีอยู่
- ชมเรือนเพาะพืชผักสวนครัวที่ปลูกไว้สำหรับใช้ภายในรีสอร์ท
- สาธิตอบไม้ ทำถ่าน
- และอื่นๆ อีกมากมายที่สาธยายไม่หมด
อยากทำอะไรบอกไกด์ของรีสอร์ทได้เลย ที่สำคัญคือไม่จำเป็นต้องพักที่นี่ก็สามารถติดต่อทำกิจกรรมเหล่านี้ได้ ทางรีสอร์ทพร้อมต้อนรับทุกคนไม่ว่าจะมาเดี่ยว มาเป็นคู่ หรือเป็นหมู่คณะ
สถานที่เที่ยวอื่นๆ บนเกาะหมากที่ไม่ควรพลาด
พิพิธภัณฑ์เกาะหมาก
พิพิธภัณฑ์ไม้หลังเก่าซึ่งเก็บเรื่องราวของครอบครัวที่มาตั้งรกรากบนเกาะหมากเมื่อสมัยร้อยกว่าปีที่แล้ว อยากรู้เรื่องราวลึกซึ้งของคนเกาะหมาก เข้ามาชมได้ไม่คิดค่าเข้าชม
บ้านหลวงพรหมภักดี
บ้านไม้โบราณตั้งอยู่ริมหาดบริเวณ อ่าวสวนใหญ่ เคยเป็นบ้านพักของ หลวงพรหมภักดี ต้นตระกูลตะเวทิกุล บ้านหลังนี้สร้างเสร็จเมื่อปี 2475 จึงนับว่ามีอายุกว่า 80 ปีแล้วในปัจจุบัน ลักษณะเป็นเรือนไม้สองชั้นหลังใหญ่ หลังคาทรงปั้นหยา ซึ่งเป็น รูปแบบสถาปัตยกรรมในสมัยรัชกาลที่ 6 หากมที่เกาะหมากควรหาโอกาสแวะไปเยี่ยมสักครั้ง เพราะนอกจากจะมีคุณค่าทางสถาปัตยกรรมแล้ว ยังเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ช่วยให้เรามองเห็นอดีตของเกาะหมากได้ชัดเจนขึ้น
วัดเกาะหมาก
วัดหนึ่งเดียวบนเกาะหมาก สร้างขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2490 ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางพระพุทธ ศาสนา อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเกาะหมาก ภายในบริเวณวัดสงบ ร่มเย็นยิ่งนัก
ด้วยเสน่ห์ในความสงบเป็นส่วนตัว มีธรรมชาติอันสวยงาม เกาะหมากจึงเริ่มเป็นที่สนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเราจึงต้องช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมให้เกาะแห่งนี้สวยงามเช่นนี้ไปนานๆ
ที่มา : เอกสาร Low Carbon Tourism ของ อพท.