เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปว่า เทศกาลกินเจ คือ ช่วงเวลาที่ผู้เข้าร่วมจะละเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์ แต่สิ่งที่เราไม่ค่อยรู้กันคือหลักธรรมที่แฝงอยู่ในเทศกาลนี้ เทศกาลกินเจปีนี้ เราจึงอยากจะชวนทุกคนมาเรียนรู้ความหมาย หลักธรรม และประโยชน์ของการกินเจไปพร้อม ๆ กัน
“เจ” ในภาษาจีนมีความหมายว่า “อุโบสถ” เป็นคำแปลทางพุทธศาสนานิกาย หมายถึงการรักษาศีล ปฏิบัติธรรมทั้งกาย วาจา และใจ ไม่ได้หมายความเพียงการไม่กินเนื้อสัตว์เท่านั้น
ผู้ที่กินเจอาจมีจุดเริ่มต้นแตกต่างกันไป แต่จุดประสงค์หลักๆ นั้นแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ
การกินเจตั้งอยู่บนหลักธรรมสำคัญ 2 ประการคือ ดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาหารที่ไม่เบียดเบียนตนเองและดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาหารที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ในทัศนะของคนกินเจเห็นว่าการกินแต่อาหารพืชผักก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้ ดังนั้นจึงควร
การกินสิ่งใดก็ตามที่ทำลายสุขภาพร่างกายของตนให้ทรุดโทรม คือ การเบียดเบียนตนเอง ปัจจุบันวิทยาการเจริญก้าวหน้าได้พิสูจน์ยืนยันว่าเลือดและเนื้อของสัตว์ที่ถูกฆ่าตายเต็มไปด้วยพิษภัยมากมาย ดังนั้นการกินเจจึงเป็นการไม่เบียดเบียนตนเองด้วย
ในช่วงเทศกาลกินเจ 9 วัน 9 คืน ผู้ที่ต้องการกินเจอย่างครบถ้วนสมบูรณ์จะต้องปฏิบัติดังนี้
ประโยชน์ของการกินเจนั้นมีหลายด้าน เรามาดูกันว่าในแต่ละด้านนั้นการกินเจมีประโยชน์อย่างไรบ้าง
คนมักสงสัยว่า กินเจแล้วจะได้รับสารอาหารครบ 5 หมู่หรือไม่ โดยเฉพาะโปรตีน ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่าโปรตีนในเนื้อสัตว์เป็นโปรตีนที่มีคุณภาพดีกว่าโปรตีนในพืช ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด เพราะแท้จริงแล้วมีคุณค่าทางอาหารใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะโปรตีนในพืชอย่างถั่ว ที่เป็นโปรตีนคุณภาพสูงใกล้เคียงกับโปรตีนในเนื้อสัตว์ จึงขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการกินอาหารมากกว่าว่า กินครบ 5 หมู่หรือไม่
รู้อย่างนี้แล้ว อย่างลืมเตรียม กาย ใจ ให้พร้อม แล้วเข้าร่วมเทศกาลกินเจเพื่อที่เราจะได้อิ่มบุญ อิ่มใจไปด้วยกัน
ที่มา :
สำนักพิมพ์แสงแดด. 2538. อาหารเจ. แสงแดด. กรุงเทพฯ
จุลจักร. 2544.ประโยชน์ของการกินเจในมุมมองที่แตกต่าง. สนองโอฐสภากาชาดไทย. 150(ตุลาคม-ธันวาคม): 37-38.
www.sac.or.th/databases/rituals/detail.php?id=91